โลกนี้ก็ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ
- rich Asachi
- 2 ธ.ค. 2564
- ยาว 1 นาที
ความจริงปลุกให้ตื่นขึ้น "เซนะสู้โดยใช้เพียงแค่เทคนิคพื้นฐานเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังเหนือกว่าคนอื่น
สิ่งนี้มันสุดยอดมาก" อิดะ ให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อปี 2013 "ถ้าเธอได้ฝึกฝนเทคนิคมากขึ้นตอนมัธยมปลาย เธอก็จะยิ่งพัฒนา และแข็งแกร่งกว่านี้แน่นอน" อิริเอะ พกความมั่นใจเต็มเปี่ยมตอนขึ้นชั้นมัธยมปลาย ด้วยดีกรีแชมป์ระดับประเทศ และเข้าไปอยู่ชมรมมวยของโรงเรียนมัธยมปลายโยนาโงะนิชิ พร้อมตั้งเป้าคว้าแชมป์ 3 สมัยติดต่อกันเหมือนสมัยมัธยมต้น
แต่จุดเปลี่ยนก็มาถึงตอนมัธยมปลายปี 1 (ม.4) เมื่ออิริเอะ ซึ่งเป็นตัวเต็ง ต้องจอดป้ายเพียงแค่รอบ 8 คนสุดท้ายในอินเตอร์ไฮ หลังพ่ายให้กับ สึกิมิ นามิกิ (ต่อมาเธอคือเจ้าของเหรียญทองแดงรุ่นฟลายเวท ในโตเกียว 2020) 3-0 มันคือความพ่ายแพ้ในไฟต์อย่างเป็นทางการครั้งแรกของเธอ สิ่งนี้ปลุกเธอให้ตื่นจากฝัน และทำให้รู้ว่าเธอยังไม่แกร่งพอ ทว่า อิริเอะ ก็ไม่ได้จมจ่อมอยู่กับความพ่ายแพ้ กลับกันมันกลายเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีที่ทำให้เธอกลับมาทบทวนวิธีการฝึกอีกครั้ง ก่อนที่มันจะทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้น จนสามารถคว้าแชมป์ระดับชาติ 2 ปีติดต่อกัน ตอนปี 2 และ ปี 3 (ม.5 และ ม.6) รวมไปถึงติดทีมชาติญี่ปุ่นรุ่นเยาวชน pattypravoweb.com และคว้าเหรียญทองแดงในการแข่งขันมวยเยาวชนชิงแชมป์โลก 2018 ที่บูดาเปสต์ ฮังการี อิริเอะ ยังคงเดินหน้าสานต่อเส้นทางนักชกของเธอหลังจบมัธยมปลาย ด้วยการไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การกีฬานิปปอน สถาบันที่ผลิตนักกีฬาทีมชาติออกมามากมาย
ในขณะเดียวกันเธอยังติดทีมชาติชุดใหญ่ ลงต่อยในศึกชิงแชมป์โลก 2019 จนกระทั่งในปี 2020
เธอก็มายืนอยู่ที่จุดเริ่มต้นของความฝัน เมื่อสามารถคว้าตั๋วผ่านเข้าไปเล่นในโอลิมปิก 2020 ในรุ่นเฟเธอร์เวทได้สำเร็จ หลังจบในอันดับ 2 ในรอบคัดเลือกเอเชีย-โอเชียเนีย และกลายเป็นผู้หญิงญี่ปุ่นคนแรกที่ผ่านเข้าไปถึงรอบสุดท้ายในกีฬาชนิดนี้ เหลืออีกเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น ตำนานบทใหม่ อิริเอะ จริงจังกับโอลิมปิก 2020 มาก มันเป็นเหมือนทั้งความปรารถนา เป็นเหมือนความใฝ่ฝัน
เพราะตอนที่พ่อเธอซื้อโทรศัพท์ให้เป็นเครื่องแรกตอนขึ้นชั้นมัธยมปลาย เธอยังเลือกเบอร์โทรที่มีเลข 2020 อยู่ในนั้น ทำให้โอลิมปิกครั้งนี้ มีความสำคัญกับเธอเป็นพิเศษ แต่ก่อนการแข่งขันไม่นาน การระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็มาพรากทุกอย่างไปจนหมด และทำให้การแข่งขันต้องเลื่อนออกไปอีกหนึ่งปี แต่ในอีกด้านหนึ่ง มันก็ทำให้ อิริเอะ มีเวลาฝึกซ้อมมากขึ้น เนื่องจากการระบาดของไวรัสทำให้มหาวิทยาลัยต้องหยุดการเรียนการสอนชั่วคราว และทำให้เธอได้กลับไปยังบ้านเกิด เพื่อโฟกัสกับมวยเพียงอย่างเดียว "มันเป็นโอกาสที่ทำให้ฉันแข็งแกร่งขึ้น" อิริเอะ บอกกับ Nikkei จนกระทั่งในปี 2021 โตเกียว โอลิมปิก ก็สามารถเปิดการแข่งขันจนได้ แม้ว่าจะเป็นการแข่งขันที่ไร้ผู้ชม เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสที่ยังไม่ดีขึ้น มันอาจจะทำให้เจ้าภาพเสียเปรียบอยู่บ้าง ที่ไม่มีแฟนกีฬาท้องถิ่นเข้ามาส่งเสียงเชียร์ แต่ไม่ใช่สำหรับ อิริเอะ ที่ก่อนโอลิมปิกจะเริ่มต้นขึ้น เธอได้รับกำลังใจชั้นยอดจาก ยู โคยามะ ผู้เขียนเรื่อง เก็งกิ ยอดนักสู้ ด้วยการวาดภาพตัวเธอพร้อมคำว่า "สู้เขา! เซนะ" เป็นของขวัญ
และดูเหมือนว่ามันจะช่วยเพิ่มพลังใจให้เธอได้จริง ๆ เมื่อมันทำให้ อิริเอะ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นตั้งแต่รอบแรกด้วยการเอาชนะ ยามิเลซ โซลอร์ซาโน นักชกจากเอลซัลวาดอร์อย่างเป็นเอกฉันท์ 5-0 ต่อด้วย คูลูด ฮลิมี จากตูนีเซีย ด้วยคะแนนเดียวกันในรอบ 16 คน ในรอบก่อนรองชนะเลิศ เธอโคจรมาพบกับ มาเรีย เนชิตา จากโรมาเนีย ซึ่งการแข่งขันเป็นไปอย่างสูสี ทำให้ต่างฝ่ายต่างแลกหมัด แต่สุดท้ายก็กลายเป็น อิริเอะ ที่เอาชนะไปได้ 3-2 เสียง พร้อมกับการันตีเหรียญทองแดงเป็นอย่างน้อย แต่เป้าหมายของ อิริเอะ ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น
Комментарии