อดีตแข้งพอร์ทสมัธชูชอตโดนโรนัลโด้เฮดบัตต์เป็นไฮไลท์ในชีวิต
- rich Asachi
- 8 ธ.ค. 2564
- ยาว 1 นาที
ริชาร์ด ฮิวจ์ส ระบุ ส่วนตัวแล้วตนยกให้การโดน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โขกใส่เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของตัวเอง
พร้อมบอกว่าไม่โกรธเลยที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บอกว่า โรนัลโด้ ไม่ควรจะมาหัวเสียกับนักเตะแบบเขาที่ถือว่าด้อยกว่า โรนัลโด้ ริชาร์ด ฮิวจ์ส อดีตกองกลางชาวสกอตต์ เปิดเผยว่าการโดน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เอาหัวโขกใส่ ถือเป็นชอตที่ทำให้ตนภาคภูมิใจมากๆ จนถึงขั้นที่ตนยกให้เป็นหนึ่งในไฮไลท์ในอาชีพการเล่นของตัวเองเลยฮิวจ์ส
เคยเผชิญหน้ากับ โรนัลโด้ สมัยที่เจ้าตัวเล่นให้ พอร์ทสมัธ เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2007 โดยวันนั้นเขาโดนเปลี่ยนลงไปเป็นตัวสำรองและได้รับหน้าที่ให้ตามประกบ โรนัลโด้ ซึ่งเขาก็ทำได้ดีมากๆ จนถึงขั้นทำให้ดาวเตะชาวโปรตุกีสตบะแตกและเอาหัวโขกใส่เขา โดยมันส่งผลให้ โรนัลโด้ โดนไล่ออกจากสนามทันทีอดีตแข้งวัย 42 ปี กล่าวว่า "มันเป็นหนึ่งในไฮไลท์ในอาชีพการเล่นของผมเลยก็ว่าได้ แต่แน่นอนว่าวสำหรับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ mycoolcab.com แล้วนั้น มันเป็นการเผชิญหน้ากันที่ไม่ได้สำคัญอะไรมากนัก" "ผมไม่ใช่พวกที่ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ ดังนั้นผมเลยต้องยกให้เรื่องอื่นๆ เป็นไฮไลท์ของผม ถ้าผมบังเอิญไปเจอคนที่จำไม่ได้ว่าผมเคยเล่นในระดับ พรีเมียร์ลีก มาก่อนแล้วล่ะก็ ผมก็สามารถบอกพวกเขาอย่างหน้าชื่นตาบานได้ว่าหนึ่งในคนที่ยิ่งใหญ่ของวงการนี้เคยเอาหัวโขกผมมาแล้ว""หลังจบเกมนั้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บอกว่า โรนัลโด้ ไม่ควรจะไปมีเรื่องกับนักเตะที่ถือว่าด้อยกว่าเขา ซึ่งเขาก็พูดถูกเผง ผมเป็นนักเตะที่ด้อยกว่าเขา ผมโกรธกับคำพูดนั้นไหมน่ะเหรอ ?
คือในโลกนี้มันมีนักเตะ 99 เปอร์เซ็นต์ที่ด้อยกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อยู่แล้วนี่
ดังนั้นผมจึงไม่มีปัญหาอะไรกับคำพูดนั้นเลย"อย่างไรก็ตาม ฮิวจ์ส ยอมรับว่าที่จริงตอนนั้นตนคิดว่า โรนัลโด้ ไม่ควรโดนใบแดงเหมือนกัน "เอาจริงๆ ผมไม่คิดว่าเขาควรจะโดนไล่ออกนะ แต่มันก็เป็นชอตที่เด่นมากๆ และกรรมการ สตีฟ เบนเน็ตต์ ก็ยืนข้างเราพอดี ตอนนั้นผมมีสติมากพอที่จะไม่ทำให้มันดูโอเวอร์แอ็คติ้งจนเกินเหตุ (สื่อว่าถ้าทำท่าเจ็บเกินจริงแล้วกรรมการอาจจะไม่เห็นใจ)
ผมไม่ได้ทิ้งตัวล้มลงไป ผมตะโกนไปว่า -กรรมการ เขาทำอย่างนี้ได้เหรอ ?- ซึ่ง เบนเน็ตต์ ก็ตอบกลับมาว่า -ไม่ได้- และ โรนัลโด้ ก็โดนใบแดง" ราล์ฟ รังนิก กุนซือชาวเยอรมันเพิ่งประเดิมคุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยการเอาชนะ คริสตัล พาเลซ 1-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเกมดังกล่าวนั้น "ปีศาจแดง" มีความเปลี่ยนแปลงไปมากมาย โดยเฉพาะระบบและแท็คติกการเล่นที่แปลกไปกว่าเดิม ซึ่งได้มีการนำ "เกเก้นเพรสซิ่ง" มาใช้ ทำให้แข้งผีไล่บีบกดดันแนวรับคู่แข่งตั้งแต่แดนบน และแย่งบอลกลับมาครองได้อย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าตอนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินใจแต่งตั้ง รังนิก เข้ามากุมบังเหียนนั้น โรนัลโด้ กลายเป็นเป้าโจมตีว่าจะเข้ากับระบบของกุนซือชาวเยอรมันได้หรือไม่ที่เน้นเรื่องการวิ่งไล่บีบคู่แข่งเป็นหลัก เพื่อนำบอลกลับมาครองและโจมตีกลับอย่างทันควัน ซึ่งไม่ใช่สไตล์ที่สตาร์ทีมชาติโปรตุกีสชื่นชอบเท่าไหร่นัก หลังเป็นนักเตะที่รอบอลหาจังหวะการจบสกอร์เพียงอย่างเดียว และที่สำคัญคือเจ้าตัวอยู่ในวัย 36 ปีแล้ว ไม่น่าจะตอบโจทย์แท็คติกของ รังนิก เท่าไหร่นัก
อย่างไรก็ตามจากผังการวิ่ง Heat Map ของ โรนัลโด้ ในเกมกับ คริสตัล พาเลซ ปรากฏว่าเจ้าตัวเคลื่อนที่มากกว่าเดิม แถมยังลงมาช่วยไล่บอลในแดนตัวเองอีกด้วย ไม่ได้ยืนรอบอลแค่ในกรอบเขตโทษของคู่แข่ง ซึ่งน่าจะลบคำสบประมาทของนักวิจารณ์ได้อย่างดี
Комментарии