top of page
ค้นหา

มันชินี่ลั่นอิตาลีซิวแชมป์โลกที่กาตาร์

  • รูปภาพนักเขียน: rich Asachi
    rich Asachi
  • 16 พ.ย. 2564
  • ยาว 1 นาที

โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือทีมชาติอิตาลี ประกาศชัด ยังไงๆ "อัซซูร์รี่" ได้ลุยรอบสุดท้าย ศึกฟุตบอลโลก 2022 แน่นอน


และดีพอไปถึงตำแหน่งแชมป์ด้วย แต่รับน่าเสียดายที่ดันทำตัวเอง จนต้องไปลุ้นต่อในการเตะเพลย์ออฟ โรแบร์โต้ มันชินี่ เฮดโค้ชทีมชาติอิตาลี ยืนยันว่า ทีมตนสามารถคาดหวังที่จะคว้าแชมป์ศึกฟุตบอลโลก 2022 ถึงแม้ทัพ "อัซซูร์รี่" ยังไม่สามารถคว้าตั๋วลุยรอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ช่วงปลายปีหน้า หลังทำได้แค่บุกไปเสมอ ไอร์แลนด์เหนือ 0-0


ในการแข่งขันรอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม ซี นัดสุดท้าย เมื่อวันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ผลการแข่งขันนัดดังกล่าว ทำให้ อิตาลี จบแค่อันดับสองของกลุ่ม โดยมี 16 แต้ม จากการลงแข่ง 8 นัด ส่วน สวิตเซอร์แลนด์ เปิดบ้านถล่ม บัลแกเรีย 4-0 แซงเป็นแชมป์กลุ่ม มี 18 แต้ม พร้อมได้สิทธิ์เข้าไปเล่นรอบสุดท้ายทันที ส่วน "อัซซูร์รี่" ซึ่งเพิ่งได้แชมป์ ยูโร 2020 เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม ต้องไปลุ้นต่อในการแข่งขันเพลย์ออฟ ซึ่งจะฟาดแข้งกันในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2022 "ตอนนี้เราจะต้องเตรียมความพร้อมสำหรับเกมช่วงเดือนมีนาคม teploforum.com เราจะลงเตะรอบเพลย์ออฟด้วยความมั่นใจ ซึ่งผมก็มั่นใจว่า เราจะได้ลุย เวิลด์ คัพ แน่นอน และหวังที่จะคว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์นั้นด้วย" กุนซือวัย 56 ปี กล่าว อย่างไรก็ตาม "มันโช่" ยอมรับว่า ตนรู้สึกเสียดายไม่น้อยที่ อิตาลี น่าจะการันตีแชมป์กลุ่มได้ตั้งแต่แรก "มันก็น่าเสียดายนะ เพราะเราควรที่จะคว้าแชมป์กลุ่มได้ตั้งแต่ก่อนมาถึงเกมนี้ แต่ช่วงนี้เรามีปัญหาในเรื่องการทำประตูจริงๆ ถึงแม้เป็นฝ่ายครองบอลได้เหนือกว่าคู่แข่ง และสร้างโอกาสได้เยอะก็ตาม


teploforum.com

เกมนี้ ไอร์แลนด์เหนือ ใช้ผู้เล่นทุกคนอยู่ในแดนหลัง ซึ่งเราก็มีปัญหาในการเจาะทีมที่มาเล่นแบบนี้


"ทั้งนี้ เกมนัดที่แล้วที่ อิตาลี ทำได้แค่เปิดบ้านเสมอ สวิตเซอร์แลนด์ 1-1 เมื่อวันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน พวกเขาได้ลูกจุดโทษนาทีที่ 90 ทว่าจอมสังหารอย่าง จอร์จินโญ่ ยิงไม่เข้า ศึกฟุตบอลเนชั่นส์ ลีก นัดชิงอันดับ 3 ประจำวันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม 2564 ที่สนาม อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม ระหว่าง อิตาลี พบ เบลเยียม อิตาลีของ โรแบร์โต้ มันชินี่ เพิ่งพาทีมแพ้ต่อ สเปน 1-2


ในรอบตัดเชือก พลาดโอกาสลุ้นความสำเร็จอีกรายการในบ้านตัวเองอย่างน่าเสียดาย โดยเกมนี้มีการปรับทัพจากเกมที่แล้วหลายตำแหน่งแรวนุกให้โอกาสกับ จาโคโม ราสปาโดรี กองหน้าดาวรุ่งลงเล่นเป็นตัวจริง ประสานงานแนวรุกร่วมกับ เฟเดริโก้ เคียซ่า และ โดมินิโก แบราร์ดี้ ด้าน เบลเยียม ของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ พาทีมแพ้ฝรั่งเศสแบบสุดช็อก 2-3 ทั้งที่นำก่อน 2-0 ในเกมรอบตัดเชือก โดยเกมนี้ดร็อป เควิน เดอ บรอยน์ ไว้ที่ม้านั่งสรำองแล้วให้โอกาสกับดาวรุ่งอย่าง อเล็กซิส ซาเลอมาแกร์ส มิดฟิลด์ดาวรุ่งลงตัวจริง เปิดฉากเกมมาทั้งคู่เปิดหน้าแลกกันทันที ก่อนที่ในนาทีที่ 7 จะเป็น เบลเยียม ที่ได้ลุ้นจบสกอร์ก่อน จากจังหวะที่ มิตชี่ บาตชัวอายี่ ลองกดด้วยขวานอกเขตโทษบอลเหินข้ามคานไปนิดเดียว หลังจากนั้น อิตาลี เป็นฝ่ายขึงบุกใส่ฝ่ายเดียว และเกือบได้ประตูขึ้นนำในนาที 18 โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ ลากจากขวาตัดเข้ากลางแล้วปั่นด้วยซ้าย แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ พุ่งปัดทิ้งออกมาได้ สองนาทีถัดมาเจ้าถิ่นได้เสียวอีกครั้ง เฟเดริโก้ เคียซ่า แทงบอลทะลุช่องให้ จาโคโม่ ราสปาโดรี่ หลุดเข้าเขตโทษ


แต่จังหวะสุดท้ายยิงไปติดแนวบล็อกแนวรับ เบลเยียม หลุดเสาออกไปนิดเดียว อิตาลี ยังเป็นฝ่ายเดินเกมบดใส่ เบลเยียม หวังเอาประตูขึ้นนำตั้งแต่ครึ่งแรกให้ได้ นาที 32 นิโคโล่ บาร์เลร่า กระชากบอลจากกลางสนามแล้วส่องด้วยขวานอกกรอบบอลฃยังเหินข้ามคาน ท้ายครึ่งแรกนาที 45 อิตาลี ชวดขึ้นนำแบบเหลือเชื่อเมื่อ โดมินิโก้ เบราร์ดี้ วางบอลยาวจากกลางสนามให้ เฟเดริโก้ เคียซ่า หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษแล้วล้มตัวซัดด้วยขวาบอลไปติดปลายมือของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ เซฟออกหลังไปได้หวุดหวิด

 
 
 

コメント


โพสต์: Blog2_Post
  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn

©2021 by richermen. Proudly created with Wix.com

bottom of page